การสร้างแรงบันดาลใจด้วยการรีโนเวทบ้านของคุณ

สร้างแรงบันดาลใจด้วยการรีโนเวทบ้าน

บ้านหลังเก่าที่เราอยู่อาศัยมาหลายสิบปี ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทั้งสภาพบ้านที่ทรุดโทรมลง ประกอบกับความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เปลี่ยนไป หรือบ้านมือสองในเมืองที่หลายคนเลือกอยู่อาศัยแทนการซื้อบ้านหลังใหม่ตามชานเมือง การที่เราต้องอาศัยอยู่ในบรรยากาศที่ดูเก่าและทรุดโทรม อาจทำให้เราหมดกำลังใจหรือท้อแท้ได้ ดังนั้น การสลัดบรรยากาศเดิมๆโดยกระตุ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจอาจทำได้โดยการปรับปรุงและตกแต่งบ้านใหม่ หรือเป็นการรีโนเวทบ้าน (home renovation) นั่นเอง

แน่นอนว่าการต้องรีโนเวทบ้านหลังเก่าให้ตรงกับความต้องการใหม่ของเราเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นนั้น เจ้าของบ้านสามารถอาศัยแนวทางการรีโนเวทบ้าน 6 ขั้นตอนต่อไปนี้ ในการเตรียมตัวก่อนลงทำการรีโนเวทบ้าน

home renovation

 

การรีโนเวทบ้าน 6 ขั้นตอน

1. กำหนดวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงบ้าน เพื่อประเมินงบประมาณเบื้องต้น

– ปรับปรุงบ้านทั้งหลัง เนื่องจากสภาพเก่าทรุดโทรมมาก หรือมีความเสียหายหลายส่วน

– จัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยใหม่ให้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น เช่น การกั้นห้องโฮมเธียเตอร์ในพื้นที่ห้องนั่งเล่น

– ซ่อมแซมบางส่วนที่เสียหาย โดยอาจถือโอกาสปรับปรุงสภาพให้ดียิ่งขึ้น เช่น ห้องน้ำรั่วเนื่องจากระบบท่อมีปัญหา จึงปรับโฉมห้องน้ำใหม่ทั้งห้อง หรือพื้นดาดฟ้ารั่ว จึงปรับเป็นสวนดาดฟ้าสำหรับพักผ่อน

– ปรับปรุงใหม่ให้ใช้งานดีขึ้น ถึงแม้ไม่ได้มีอะไรเสียหาย แต่ปรับเพื่อแก้ปัญหาการใช้งาน เช่น เพิ่มแผงกันแดดที่หน้าต่างห้องทำงานซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่แดดส่องร้อนแรง ติดตั้งประตูอลูมิเนียม tostemใหม่ที่ดูสวยงาม หรือติดตั้งระบบผนังฉนวนกันเสียงและเปลี่ยนหน้าต่างชุดใหม่ในห้องนอนซึ่งมีเสียงรบกวนจากถนนใหญ่ที่มีรถวิ่งผ่าน

– ปรับโฉมใหม่ตามสไตล์ที่ชอบ เช่น ปรับแต่งห้องใหม่ให้เป็นสไตล์ลอฟท์โดยการฉาบผนังใหม่ให้เป็นปูนเปลือยแบบดิบๆ ด้วยสกิมโค้ท และรื้อฝ้าเพดานออกเพื่อโชว์ท่องานระบบต่างๆ

loft style

 

2. รวบรวมข้อมูลและรูปแบบที่ชอบ

การตกแต่งห้องหรือพื้นที่ที่ประทับใจ รวมถึงวัสดุที่ใช้ ซึ่งอาจพบเห็นได้จากสื่อต่างๆ หรือสถานที่จริง ตลอดจนวิธีการในการปรับปรุงซ่อมแซมแต่ละส่วน ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง หรือเป็นข้อมูลในการออกแบบของสถาปนิกหรือมัณฑนากร และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่างๆ

สมมุติว่าถ้าสนใจประตูหน้าต่างรูปแบบและดีไซน์สวยๆ และชอบวัสดุอลูมิเนียม ให้ลองทำการศึกษาแต่ละยี่ห้อที่มีจำหน่ายในท้องตลาด เช่น ประตู หน้าต่าง อลูมิเนียม tostem glasten aluich alu-z และทำการเปรียบเทียบจุดเด่นและข้อเสีย

tostem lixil อลูมิเนียม

 

3. ตรวจสอบสภาพพื้นที่และกำหนดแนวทางในการปรับปรุง

ควรตรวจสอบส่วนต่างๆ ของบ้าน หรือพื้นที่ที่กำลังจะปรับปรุงว่ามีส่วนใดยังใช้งานได้ดี หรือมีส่วนใดที่เสียหายต้องซ่อมแซมทั้งก่อนและขณะลงมือปรับปรุงบ้าน โดยการทำ Check List ในแต่ละห้องหรือแต่ละพื้นที่ตามประเภทงานต่างๆ แบ่งเป็น งานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม (วัสดุตกแต่งและปิดผิว) พื้นที่รอบบ้าน งานพื้น งานฝ้า งานผนัง งานประตูกระจก งานระบบไฟฟ้า งานระบบประปา และสุขาภิบาล รวมถึงระบบปรับอากาศ (ถ้ามี) ตลอดจนกำหนดแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขที่เหมาะสมในแต่ละงาน โดยอาจปรึกษาวิศวกร สถาปนิก หรือผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม

ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการปรับปรุงห้องน้ำที่ใช้งานมานานกว่า 10 ปี สำหรับงานโครงสร้าง ควรตรวจสอบสภาพพื้นห้องน้ำว่ามีความเสียหายจากการรั่วซึมหรือไม่ มีแนวทางซ่อมแซมอย่างไร งานสถาปัตยกรรม ควรตรวจสอบสภาพกระเบื้องปูพื้นและผนัง สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หรือควรเปลี่ยนใหม่ตามแนวการตกแต่งที่ชอบไปพร้อมๆ กับการทำระบบกันซึมใหม่ งานระบบประปาและสุขาภิบาล อาจถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนท่อประปาใหม่ พร้อมกับการเดินแนวท่อตามการจัดวางผังห้องน้ำใหม่ เป็นต้น

 

4. สรุปเนื้องานที่ต้องการปรับปรุง

โดยพิจารณางานปรับปรุงซ่อมแซมต่างๆ จาก Check List ที่ทำไว้ และสรุปเนื้องานที่ต้องการปรับปรุงตามวัตถุประสงค์ เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ตั้งไว้

 

5. จัดเตรียมงบประมาณในการปรับปรุงบ้าน แบ่งได้เป็น 3 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 ค่าออกแบบโดยสถาปนิก มัณฑนากร วิศวกรโครงสร้าง และวิศวกรงานระบบต่างๆ

ส่วนที่ 2 ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง ได้แก่ ค่าวัสดุและค่าแรงก่อสร้าง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าดำเนินการต่าง ๆ ระหว่างการก่อสร้าง

ส่วนที่ 3 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าโกดังเก็บของ ค่าเช่าบ้านอยู่ชั่วคราว ค่าดำเนินการขออนุญาตปรับปรุงบ้านกับหน่วยงานราชการ (สำหรับกรณีที่จำเป็นต้องยื่นขออนุญาต) ค่าบริการที่ปรึกษางานก่อสร้าง ฯลฯ

ทั้งนี้เราอาจใช้งบประมาณเพียงบางส่วนจากทั้ง 3 ส่วนที่กล่าวมา ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณงาน และขอบเขตในการปรับปรุงบ้าน  นอกจากนี้ควรเผื่องบประมาณที่อาจจะบานปลายไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีงบประมาณจำกัด  ควรวางแผนลำดับความสำคัญในการปรับปรุงบ้านเป็นส่วนๆ  ตามช่วงเวลาต่างๆ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับงบประมาณในการปรับปรุง

 

6. เลือกวิธี RENOVATE บ้าน

หากเป็นการรีโนเวทบ้านทั้งหลัง หรือเป็นการต่อเติมปรับปรุงพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาผู้ออกแบบหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถเลือกได้ 2 วิธีคือ

Design-Bid-Built เป็นลักษณะที่ผู้ออกแบบและผู้รับเหมาแยกกันคนละราย เจ้าของบ้านสามารถตรวจสอบและปรับปรุงแบบให้ตรงตามความต้องการได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ก่อนการดำเนินการก่อสร้างโดยผู้รับเหมา นอกจากนี้ผู้ออกแบบจะมีส่วนร่วมในฐานะที่ปรึกษาของเจ้าของบ้าน ตลอดจนร่วมตรวจคุณภาพงานและวิธีแก้ปัญหาของผู้รับเหมาในระหว่างก่อสร้างด้วย ดังนั้น นอกเหนือจากประสบการณ์ด้านการออกแบบแล้ว ประสบการณ์ด้านการควบคุมงานและประสานงานก่อสร้างของผู้ออกแบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะอาจส่งผลต่อความล่าช้าและงบประมาณในการปรับปรุงบ้านได้

Design & Build เป็นลักษณะที่ผู้ออกแบบและผู้รับเหมาคือรายเดียวกัน หรือที่เรียกทั่วไปว่า “Turn Key” เป็นวิธีที่สะดวกต่อเจ้าของบ้าน เพราะจะติดต่อกับผู้ประสานงานรายเดียวตั้งแต่เริ่มออกแบบจนปรับปรุงบ้านแล้วเสร็จ ซึ่งควรกำหนดขอบเขตงานและรายละเอียดการก่อสร้างโดยระบุในสัญญาว่าจ้างให้ชัดเจน เพื่อป้องกันข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการปรับปรุง เนื่องจากไม่มีคนกลางในการประสานงาน อย่างไรก็ตาม การจ้าง Turn Key เป็นวิธีที่ช่วยควบคุมระยะเวลาและงบประมาณในการก่อสร้างได้ดี

 

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนสำหรับการรีโนเวทบ้านทั้งหลัง เจ้าของบ้านสามารถว่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานต่างหาก เพื่อให้การก่อสร้างปรับปรุงบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น ตามระยะเวลาและงบประมาณที่กำหนดไว้

สำหรับงานปรับปรุงบางส่วน หรือซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ เช่น รื้อหลังคามุงใหม่ ปรับปรุงห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ ซ่อมแซมดาดฟ้ารั่วซึม ฯลฯ ควรใช้บริการช่างเฉพาะทางเป็นส่วนๆ เช่น ประตูหน้าต่าง tostem ซึ่งอาจจะมีค่าบริการค่อนข้างสูงเมื่อเทียบต่อขนาดพื้นที่ ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาผลงานที่ผ่านมาของผู้รับเหมาแต่ละรายโดยละเอียด เพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพดีคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

scgbuildingmaterials.com

ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ สร้างบันดาลใจได้อย่างไร

ประตูเลื่อนบานใหญ่ vs แรงบันดาลใจ

ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่  (a large / oversized sliding door) เกี่ยวอะไรกับการสร้างแรงบันดาลใจ (aspiration or m0tivation)? คิดว่าทุกคนน่าจะมีคำถามในข้อนี้ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ กันเถอะ

ประตู tostem อลูมิเนียม บานเลื่อน กระจก

ประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม

ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ คือประตูที่ถูกออกแบบให้มีความสูงมากกว่าปกติ เช่น ความสูง 3 เมตร เป็นต้น สามารถผลักให้เลื่อนเปิดออกกว้างได้เป็นพิเศษ เพื่อมุมมองแบบพาโนรามาวิว ทำให้ผู้ที่อยู่ภายในห้องรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย ไม่อึดอัดจากห้องสี่เหลี่ยมแบบธรรมดาอีกต่อไป และยังสามารถชมวิวทิวทัศน์จากภายในห้องได้กว้างขวางอีกด้วย  การได้ใช้เวลาอยู่ในบ้านที่ทำให้รู้สึกสบายตา และสบายใจ จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างมีความสุขกับสมาชิกในครอบครัว การใช้ชีวิตวันหยุดอยู่ในบ้านจะไม่รู้สึกอึดอัด และน่าเบื่อจากความรู้สึกที่เหมือนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่ตีกรอบความคิดของเรา การทำประตูบานใหญ่เช่นนี้ จะให้มุมมองที่ไม่สะดุดตา แต่ต้องใช้กระจกบานใหญ่ที่มีความหนาขึ้นกว่ากระจกทั่วไป เช่น ความหนา 8 มม 10 มม หรือ ความหนายิ่งกว่านั้น หรือแม้กระทั่งต้องใช้เป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ เพื่อความแข็งแรงและปลอดภัยต่อการใช้งานเป็นประจำ การใช้กระจกที่ดีและมีคุณภาพจะทำให้มุมมองของบ้านดูดี หรูหราอย่างมีระดับ และปลอดภัยต่อการใช้งาน อีกทั้งยังเพิ่มความโดดเด่นให้กับบ้านของคุณจนสวยเกินเพื่อนบ้านเลยค่ะ

ประตูกระจกเลื่อนขนาดใหญ่

แรงบันดาลใจเกิดขึ้นจากประตูเลื่อนได้อย่างไร?

คงจะดีไม่น้อย ถ้าหากตื่นมายามเช้าแล้วสามารถเห็นวิวท้องฟ้าพร้อมกับแสงแดดยามเช้า แบบเต็มๆจากประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่ทำให้คุณสามารถเห็นได้แบบ 180 องศากันเลยทีเดียว อีกทั้งไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อน เพราะเราสามารถใช้ประตูเลื่อน “ระบบ Themal Break” ที่จะช่วยลดความร้อนจากอากาศที่ร้อนจัดของประเทศไทยที่ทุกคนรู้กัน โดยระบบนี้จะ “ลด” หรือ “หยุด” การถ่ายเทความร้อนจากภายนอกบ้านเข้าสู่ภายในตัวบ้าน ด้วยการออกแบบให้มีโครงสร้างภายในของเส้นอลูมิเนียม มีตัววัสดุพิเศษที่ใช้แบ่งแยกจุดสัมผัสระหว่างภายในและภายนอก โดยวัสดุนี้จะช่วยไม่ให้ความร้อนจากนอกบ้านเข้ามาภายในตัวบ้านได้ง่าย ผู้อาศัยอยู่ในบ้านรู้สึกเย็นร่มรื่น แม้วันที่แดดแผดเผาอยู่ภายนอกบ้าน ซึ่งระบบนี้เหมาะกับอากาศของประเทศไทย จนทำให้คนรักการอยู่บ้านทุกคนแทบต้องรีบซื้อไปติดกันทันที

 

ลองจินตนาการดูสิคะ ถ้าคุณได้มีโอกาสอาศัยอยู่ในบ้านนี้ คุณจะตื่นมามีแรงบันดาลใจที่พุ่งพรวด สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังคิดนอกกรอบ (Think Outside The Box) ด้วย เห็นด้วยกันไหมคะ

อลูมิเนียม ระบบยูโรโปรไฟล์

เส้นประตูหน้าต่างที่เป็นอลูมิเนียม “ระบบยูโรโปรไฟล์” เช่น แบรนด์ Glasten อลูมิเนียม จะการออกแบบโครงสร้างภายในเส้นอลูมิเนียมให้มีช่อง Chamber และใช้ยาง EPDM คุณภาพดี เพื่อลดเสียงที่จะเข้ามารบกวนผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ดังนั้นวันหยุดอันน้อยนิดในแต่ละสัปดาห์ของทุกๆคนจะไม่ถูกรบกวนจากเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงก่อสร้าง เสียงรถสันจรไปมา หรือแม้แต่เสียงคนข้างบ้านทะเลาะกัน คุณจะได้อาศัยอยู่ในบ้านที่เงียบสงบกับคนที่คุณรัก และ “ระบบยูโรโปรไฟล์” ยังมีความสามารถในการป้องกันน้ำรั่วซึมตามขอบประตูได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าฤดูฝนมาถึง หายห่วงเรื่องน้ำรั่วซึมได้เลยค่ะ

อลูมิเนียม ยูโรโปรไฟล์ section

ความหนาของเส้นอลูมิเนียม

การดีไซด์เส้นโปรไฟล์ของอลูมิเนียม ต้องมีความหนาและแข็งแรงเพียงพอต่อการใช้งานบานเลื่อนขนาดใหญ่ โดยประตูสามารถมีความสูงได้ถึง 3.30 เมตร และกว้างถึง 3.00 เมตร ต่อบาน หรือรับน้ำหนักต่อบานได้สูงถึง 450 kg. ด้วยความสูงและความกว้างที่กว้างขวาง ทำให้คุณสามารถเนรมิตบ้านในฝันของคุณได้อย่างเต็มที่ ตามที่คุณคิดไว้อย่างไม่มีปัญหา เพราะใครๆก็คงอยากมีบ้านที่มีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่สามารถทำให้บ้านของคุณดูกว้างขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

เส้นอลูมิเนียมหนา 2 มม

Lift and Slide Door

Lift and Slide เป็นระบบประตูบานเลื่อน ซึ่งใช้สำหรับประตูบานเลื่อนที่มีน้ำหนักมาก โดยระบบการยกตัวของระบบลูกล้อ ที่ทำหน้าที่ถ่ายน้ำหนักบานประตูขนาดใหญ่และกระจก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนบานประตูได้อย่างเบาสบาย เพียงปลายนิ้วสัมผัส แต่ไม่เปราะบางอย่างแน่นอนเมื่อใช้อุปกรณ์คุณภาพสูง โครงสร้างอลูมิเนียมของที่หนาประมาณ 2 มิลลิเมตร นั้น จะแข็งแรงกว่าอลูมิเนียมทั่วไป เพราะตัวอลูมิเนียมเป็นชนิดหนาพิเศษ และมีรูปแบบเป็นช่องที่เสริมความแข็งแรงตลอดแนว ด้วยความหนาอลูมิเนียมเป็นพิเศษ เฉลี่ยที่ 2 มิลลิเมตร ทำให้รองรับแบบประตูขนาดใหญ่ตามความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันแต่ละบ้านได้เป็นอย่างดี

Lift and slide ประตูบานเลื่อน ขนาดใหญ่

 

ประตูบานเลื่อนที่มีคุณภาพ จะถูกดีไซน์ออกแบบมาอย่างดี ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์และการใช้งาน เช่น แบรนด์ประตูหน้าต่างอลูมิเนียมยูโรโปรไฟล์ Glasten หรือ แบรนด์ ประตู หน้าต่าง Tostem อลูมิเนียม ภายใต้ LIXIL แบรนด์ยอดขายอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น มีข้อดีมากมาย และยังเน้นความสวยงามอย่างหรูหราโดดเด่น ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย ด้วยการคัดสรรใช้แต่วัสดุอุปกรณ์และระบบล็อคที่มีคุณภาพ ทนทานต่อการใช้งานที่ยาวนาน การงัดแงะไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ง่ายอย่างแน่นอน เพราะความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ

การออกแบบ อุปกรณ์ประตู

ระบบล็อคที่ดี สามารถล็อคได้แน่นหนา ใช้งานได้ยาวนาน จะทำให้บ้านดูปลอดภัย ซึ่งจากในภาพ เป็นระบบล็อคของประตู TOSTEM LIXIL ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น

หากท่านใดกำลังอ่านบทความนี้อยู่ แล้วเกิดสนใจประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่สวยงาม และทนทานแบบนี้ แต่ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ไม่ว่าจะเรื่องขนาด รูปแบบของประตูบานเลื่อนต่างๆ สามารถติดต่อทีมงานคุณภาพเพื่อปรึกษาได้เลยนะคะ ทีมงานคุณภาพที่ทำงานคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเพื่อบ้านที่สวยงามของลูกค้าทุกคน เพราะบ้านคือสถานที่ที่อยู่แล้วสบายใจที่สุด

โทร : 095-515-0600 / Line: kunnapab

credit: kunnapab.com

 

 ประตูบานเลื่อน ขนาดใหญ่ กระจกเทมเปอร์

แรงบันดาลใจกับการคิดค้นวัสดุอะคริลิคพลาสติก

อะคริลิคพลาสติก

ปัจจุบันนี้เรามักจะเห็นแผ่นพลาสติกแข็งๆที่มีลักษณะตัน มีคุณสมบัติความโปร่งใสหรือโปร่งแสงคล้ายกระจก และมักได้ยินชื่อเรียกมากมายไม่ว่าจะเป็น พลาสติกอะคริลิค กระจกอะคริลิค ล้วนเป็นชื่อเรียกของ แผ่นอะคริลิค ทั้งสิ้น โดยแผ่นอะคริลิคคือพลาสติกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “อะคริลิคพลาสติก”

แผ่นอะคริลิค พลาสติก
อะคริลิคพลาสติก เป็นพลาสติกที่ได้จากการนำโมโนเมอร์ของเมทิลเมทาคริเลต (methyl methacrylate, MMA) มาทำปฏิกิริยาการเกิดโพลิเมอร์ (polymerization) โดย 2 นักเคมีชาวเยอรมันคือ ฟิททิจ (Fittig) และพอล (Paul) สามารถสังเคราะห์โพลิเมทิลเมทาไครเลตได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1877 แล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนาวิธีผลิตให้ได้แผ่นอะคริลิคนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จนกระทั่งต้องรอไปถึงปี ค.ศ. 1933 เมื่อออทโท เริห์ม (Otto RÖhm) นักเคมีชาวเยอรมันขอจดสิทธิบัตรวิธีผลิตแผ่นพลาสติกใสจากโพลิเมทิลเมทาไครเลตในชื่อทางการค้า ที่เรียกว่า Plexiglas

Otto RÖhm

หลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 3 ปี ในปี ค.ศ. 1936 จึงได้มีการผลิตและจำหน่ายแผ่น Plexiglas ออกจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ซึ่งได้พัฒนาต่อมาเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติของการผลิตวัสดุอะคริลิคพลาสติกนี้ให้ดียิ่งขึ้น ในราคาที่สามารถแข่งขันได้

จนกระทั่งมาถึงยุคสมัยนี้ บริษัทและโรงงานอะคริลิคสามารถผลิตอะคริลิคได้จากปฏิกิริยาการเกิดโพลิเมอร์หลายแบบ ผลิตภัณฑ์อะคริลิคสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ

  • อะคริลิคของแข็ง
  • อะคริลิคเหลว
  • และอะคริลิคอิมัลชัน (ส่วนผสมของสีทาบ้าน)

อะคริลิคของแข็ง

ในที่นี้เราจะพูดถึงอะคริลิคของแข็ง เพราะแผ่นอะคริลิคทั่วไปในท้องตลาดและที่ใช้ในอุตสาหกรรม ถูกจัดอยู่ในประเภทนี้ ซึ่งถือเป็นโฮโมพอลิเมอร์ของเมทาคริเลตเอสเทอร์ หรือ โคพอลิเมอร์ของเมทาคริเลต

แผ่นอะคริลิค ชินโคไลท์ สีน้ำตาล ของแข็ง

แผ่นอะคริลิคสามารถผลิตได้จากอะคริลิคของแข็งด้วยกระบวนการการหล่อ ทำได้ 2 แบบ คือ

1. การผลิตเป็นชุด (Batch cell bulk polymerization)

1.1 ใช้แม่พิมพ์เป็นแผ่นแก้วหรือโลหะผิวเรียบ 2 แผ่น ประกบเข้าด้วยกัน โดยขอบนอกแม่พิมพ์มีลักษณะเป็นกรอบหนาสามารถยืดหดได้ตามปริมาตรพลาสติก
1.2 ปล่อยโมโนเมอร์เหลวกับตัวเร่งปฏิกิริยาเข้าไปในแม่พิมพ์ บางครั้งอาจเติมพรีโพลิเมอร์ (prepolymer) เข้าไปด้วยเพื่อเร่งกระบวนการผลิตให้เร็วขึ้น
1.3 เมื่อวัตถุดิบเข้าไปเต็มแม่พิมพ์แล้วปิดแม่พิมพ์ให้สนิท และให้ความร้อนเพื่อกระตุ้นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ทำงานในบางครั้ง
1.4 ขณะที่เกิดปฏิกิริยาจะมีการคายความร้อนออกมาจึงต้องควบคุมการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแม่พิมพ์ไม่ให้กลายเป็นไอและเกิดฟองอากาศในแผ่นอะคริลิค โดยการเป่าลมหรือแช่น้ำ
1.5 นำพลาสติกที่แข็งตัวแล้วออกมาปล่อยให้เย็นตัวลง โดยใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง จนถึงเป็นวัน ตามความหน้าของแผ่นอะคริลิค
1.6 นำแผ่นอะคริลิกไปอบแอนนีล (anneal) ที่อุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียส เพื่อลดความเค้นตกค้าง (residual stress) ในพลาสติกที่อาจทำให้แผ่นพลาสติกบิดงอหรือเสียรูปร่าง ก่อนนำไปตัดแต่งเพื่อจำหน่าย

2. การผลิตแบบต่อเนื่อง (Continuous bulk polymerization) มีการผลิตคล้ายแบบผลิตเป็นชุด แต่เร็วกว่า

2.1 ใช้แม่พิมพ์มีลักษณะเป็นสายพานเหล็กซ้อนกัน 2 ชั้น โดยเว้นช่องห่างเล็กน้อยเพื่อคุมความหนา
2.2 ฉีดโมโนเมอร์เหลวกับตัวเร่งปฏิกิริยาเข้าไปในช่องว่างระหว่างแผ่นเหล็ก สายพานเหล็กที่บรรจุสารแล้วจะเลื่อนผ่านชุดอุปกรณ์ให้ความร้อนและระบายความร้อนสลับกันไป
2.3 นำแผ่นอะคริลิคออกจากแม่พิมพ์ แล้วนำไปอบแอนนีลเพื่อลดความเค้นตกค้างในแผ่น ก่อนนำไปตัดแต่งเพื่อจำหน่าย

มีการใช้แผ่นอะคริลิคเป็นจำนวนมากในยุคสมัยใหม่นี้ เนื่องจากวัสดุอะคริลิคสามารถทนต่อแรงกระแทก สภาพแวดล้อม สารเคมีหลายชนิดยกเว้นตัวทำละลาย และมีคุณสมบัติเรื่องความเหนียว ทนต่อความร้อน เป็นฉนวนไฟฟ้าและความร้อนได้ดีกว่าวัสดุแก้ว รวมถึงไม่ดูดความชื้น แผ่นอะคริลิคจึงถูกเลือกใช้ในงานอุตสาหกรรม และงานในครัวเรือนมากมาย เช่น ทำเป็นวัสดุตกแต่ง ตู้โชว์ ฉากกั้นห้อง หลังคา ส่วนประกอบไฟรถยนต์ ชั้นวางของ เป็นต้น และสามารถหาซื้อได้ตามร้านพลาสติกทั่วไป มีตั้งแต่ราคาหลักสิบจนถึงหลักพันและหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนวัสดุที่ใช้จริงเป็นหลัก สำหรับใครที่อ่านแล้วมีคำถามเกิดขึ้นว่าแผ่นอะคริลิค ซื้อที่ไหน? สามารถชมวีดีโอด้านล่างนี้ได้ค่ะ

 

 

แหล่งที่มาอ้างอิง:

การสร้างแรงบันดาลใจที่บ้าน

การสร้างแรงบันดาลใจที่บ้าน

Motivation At Home

สวัสดีค่ะ ห่างหายกันไปนาน เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ยังมีแรงบันดาลใจดีๆกันอยู่ไหมคะ วันนี้เราขอนำเสนอหัวข้อพิเศษ “การสร้างแรงบันดาลใจที่บ้าน” หลายๆคนคงสงสัยว่าอะไรนะ ทำได้ด้วยเหรอ อยู่บ้านทีง่วงนอน หัวไม่เดิน คิดไม่ออก เสียงดัง อยากอ่านการ์ตูน และอื่นๆอีกมากมาย ลองดูกันนะคะ

หลับตา สบาย บ้าน

ทำไมต้องเป็นที่บ้าน?

Why Must Be Home?

ใครเคยได้ยินบ้างคะว่าบ้านเป็นจุดเริ่มต้นแรกของตัวเรา ทุกๆวันเราตื่น เปิดตามา ก็อยู่ในบ้าน หลังจากทำงานหรือเรียนเสร็จ ก็ต้องกลับบ้านไปพักผ่อน ในวันหยุดก็นอนพักอยู่บ้าน กินข้าวเย็นที่บ้าน อะไรก็บ้านๆๆๆๆๆๆ

แรงบันดาลใจ บ้าน

ดังนั้น ถ้าเราต้องการจะเริ่มต้นค้นหาแรงบันดาลใจอะไร ก็คิดซะว่า เริ่มที่บ้านเลยแล้วกัน เริ่มการการเดินสำรวจรอบๆบ้าน ทั้งภายใน และภายนอก หลังจากนั้น ก็หามุมที่เหมาะๆ เช่น ระเบียงบ้าน สวนหลังบ้าน ห้องนั่งเล่น (แต่ไม่ควรเป็นห้องนอนนะคะ เดี๋ยวจะหลับซะก่อน อิอิ) แล้วก็นั่งลงช้า หายใจเข้าออกยาวๆ แล้วก็สั้นๆ หลังจากนั้นก็ปิดตา ทำจิตใจให้สบาย แล้วก็เริ่มกันเลยนะคะ

 

มองหามุมหรือสิ่งที่เราชอบที่สุดในบ้าน

Look for Your Favorite Section At Home

แต่ละคนมีมุมที่ชอบไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับนิสัย การใช้ชีวิต บางคนชอบมองที่ห้องนั่งเล่นสวยๆ บางคนชอบมุมในห้องนอน บางคนชอบมุมชิวๆที่ระเบียงบ้าน บางคนชอบสวนหลังบ้าน หรือถ้าเพี้ยนๆหน่อย ก็อาจจะชอบนั่งบนหลังคาบ้าน เมื่อได้มุมเหมาะๆแล้ว ก็นั่งคิด ปล่อยใจสบายๆ เดี๋ยวก็จะได้แรงบันดาลใจดีๆ เข้ามาเองค่ะ

สำหรับคนที่ยังไม่มีมุมมองที่ชอบ หรือยังไม่ลงตัว ทำไมไม่จัดมุมมองที่ชอบให้กับตัวเองเลยหละคะ ไหนๆก็เป็นบ้านเราแล้ว อีกเคล็ดลับที่จะบอกคือ คุณสามารถมีมุมที่ชอบได้มากกว่า 1  มุม อาจมีเป็น 10 มุมเลยก็ได้ มุมหน้าบ้าน มุมหลังบ้าน มุมห้องนอน มุมห้องนั่งเล่น มุมห้องครัว มุมโรงรถ มุมห้องน้ำ (อิอิ) หรือมุมไหนๆก็ได้ค่ะ

 

คุยกับคนในครอบครัว

Talk to Your Beloved Persons At Home

เมื่ออยู่บ้าน การได้คุยกับ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หรือญาติ (Family) จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจได้ เนื่องจากได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล มุมมอง ความคิดเห็น อารมณ์ ฯลฯ บางครั้ง ถ้าเราได้สังเกต จะเกิดการปิ๊งไอเดียเจ๋งๆขึ้นมาเอง ถ้าเรานำไอเดียนี้มาเป็นแรงขับเคลื่อน เพื่อนำไปสู่แรงบันดาลใจ ก็จะดีมากค่ะ

จงจำไว้ว่า อย่าลืมว่า คนในครอบครัวนั้นสำคัญที่สุด ไม่มีใครที่จริงใจกับเราเหมือนคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อกับแม่ พ่อแม่รักเราที่สุด เราจงนำสิ่งดีๆเหล่านี้ มาเป็นกำลังใจเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับตัวเราเอง

 

การตกแต่งบ้าน

Home Decoration

ก่อนอื่น ขอบอกว่า ไอเดียนี้ได้มาจาก เว็บ KUNNAPAB ค่ะ การที่เราได้ตกแต่งบ้าน (Home Decoration) หรือทำอะไรให้บ้านของเราดูสวยงามขึ้น น่าอยู่ขึ้น ในสายตาของเรานั้น ทำให้เกิดแรงบันดาลใจได้ดีเยี่ยม

ไอเดียในการตกแต่งบ้าน อาจเป็น การซื้อของมาประดับบ้าน การตกแต่งสวนหน้าบ้าน การทาสีบ้าน การจัดบ้านใหม่ ในอีกรูปแบบที่เปลี่ยนไป การเปลี่ยนวอล์เปเปอร์ การประดับบ้านด้วยรูปสวยๆ การมีโคมไฟสวยๆ การซื้อตู้เย็นใหม่ การเปลี่ยนโต๊ะกินข้าว เป็นต้น

 

การนั่งสมาธิที่บ้าน

Meditation At home

คิดว่าหลายๆคนคงเคยทำกันมาบ้างแล้วนะคะ การนั่งสมาธิ (Meditation) เป็นบ่อเกิดของสติปัญญา (Wise) เมื่อเรามีสติปัญญา การมีสติปัญญาก็จะนำไปสู่การเกิดสิ่งดีๆอีกมากมาย รวมถึง แรงบันดาลใจ (Aspiration) ด้วยค่ะ

บางคนคิดว่า การนั่งสมาธิไม่สนุก ซึ่งก็อาจจะเป็นความจริง เนื่องจากคุณไม่เคยชิน เหมือนกับการที่เราทำอะไรครั้งแรก ก็มักจะไม่สนุก เพราะมันไม่ชิน หรือเรามักจะชินกับการอยู่ใน comfort zone ของตนเอง เราจึงควรยกตนเองออกมาจาก comfort zone ค่ะ

 

พูดมายาวกันขนาดนี้แล้ว คุณหาแรงบันดาลใจที่บ้านเจอแล้วหรือยังคะ

We have discussed so long until now. Did you already find your motivation at your home yet?